เรื่องของใคร

มกราคม 26, 2011

มิถุนายน 24, 2009

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมเขียนบล็อกโดยมีคนอื่นกำหนดเรื่องให้
คนที่กำหนดเรื่องให้ผมเขียนมันมีชื่อตามทะเบียนราษฏร์ว่า นายคุณากร สายชุม และมีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ‘ปิ๊ก’
เรื่องของเรื่อง คือมันอยากให้ผมเขียนเรื่องของมัน นัยพอจะเดาว่ามันอยากอ่านเรื่องของตัวมันเองผ่านมุมมองความคิดของผม โดยตั้งกรอบให้ผมว่า ‘มึงต้องเขียนดีๆ’

ผมไม่รู้ว่ามันต้องการอ่านอะไรจากงานเขียนของผม แต่ผมรู้ว่าผมอยากจะเขียนอะไร เพราะที่นี่ ‘ผมใหญ่’
ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นหน้ามันจวบจนปัจจุบันที่พอจะพบเห็นได้(โดยไม่ต้องเดินทางไปสวนสัตว์) สิ่งที่ผมสัมผัสได้ในความเป็นมันก็คือ ‘ความมั่นใจในตัวเอง’ ผมชื่นชมมันในเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เพราะไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ผมก็เห็นมันก็เคลือบความมั่นใจไว้ด้วยตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องหน้าตาที่มันปักหมุดความเชื่อไปแล้วว่า หน้าของมันละม้ายคล้ายกับ ‘เจ มณฑล’ แต่แท้จริงแล้วหน้าของมันไม่มีเค้าความเป็นลูกครึ่งเลยซักนิด

‘ความมั่นใจ’ มีส่วนผสมระหว่างความกล้ากับความเชื่อเข้าด้วยกัน สิ่งนี้คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าเป็นพื้นฐานของการทำอะไรให้สำเร็จ
ก็อีกนั่นแหละครับ ผมเห็นมันเป็นตัวอย่างของเรื่องนี้ได้จริงๆ

สมัยที่ผมเป็นนักกีฬาบาสฯโรงเรียน ผมเป็นคนที่ไม่มั่นใจในตัวเองซะเลย ลงสนามทีไรมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถูก จึงทำให้ทำผลงานออกมาได้แย่ เข้าข่ายเป็น ‘หมูสนามจริง สมันสนามซ้อม’ ผิดกับ ‘ไอ้ปิ๊ก’ ที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับสิ่งที่ผมเป็น ทุกครั้งที่ผมเห็นมันลงเล่น ผมไม่เคยเห็นอาการตื่นตระหนกหรือกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ผลจึงออกมาคือ ‘มันทำได้ดี’

‘ความมั่นใจ’ มันไม่ได้มีประโยชน์กับชีวิตของเราเพียงอย่างเดียว แต่มันก็มีผลข้างเคียงอยู่ด้วย บางครั้งมันก็สร้างภาพหลอนให้เราหลงระเริง

ภาวะหลงตัวเองและหลงระเริงไปกับคำสรรเสริญ ทำให้เราหยุดการพัฒนาและรอวันเสื่อมถอยมาเยือน

ผมเคยพบคำคำนึงซึ่งถูกใจผมมากๆ นั่นคือ’หลงตัวเองหาทางออกยากที่สุด’ เป็นคำที่โดนใจเอามากๆ

ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่า ‘ความมั่นใจ’ ไม่ดี และสิ่งนี้ก็ดูเหมือนกับว่าจะไม่มีก็ไม่ได้ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะควบคุมมันยังไงให้พอดี

ทุกวันนี้ผมรู้สึกหวาดหวั่นทุกครั้งที่ได้ยินคำชื่นชม ลึกๆกลัวอยู่เสมอว่าตัวเองจะ’เหลิง’ และติดอยู่ในภาพหลอนของตัวเองที่เราเชื่อว่า ‘ตัวเองดี’

เป็นอันว่าเรื่องของ ‘ไอ้ปิ๊ก’ ก็เป็นอันจบ ผมเขียนเรื่องของมันด้วยความรู้สึกขัดแย้งอยู่ภายในตลอดเวลา ความรู้สึกคล้ายเหมือนกับตอนเด็กๆที่พาเพื่อนมาเล่นที่บ้าน แต่เรากลับหวงอาณาเขตของเราเอง และต่อแต่นี้ไปผมจะไม่ยอมให้ใครมารุกรานกับพื้นที่อิสระของผมแบบนี้

เพราะที่นี่ ผมเชื่อมั่นและมั่นใจว่า ‘ผมใหญ่’

ใส่ความเห็น